บล็อกนี้ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจาก แดนอรัญ แสงทอง

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มาตานุสติ


โดย เฟย์ Faylicity
http://www.faylicity.com/


ก่อนอื่นจำต้องบอกว่านิยายเล่มนี้น่ากลัวที่สุด คนขวัญอ่อนอย่าอ่านหนังสือตอนกลางคืนเวลาอยู่คนเดียว ควรวางแผนเวลาในการอ่าน ไม่ให้อ่านเรื่องนี้จบตอนกลางคืนเวลาที่อยู่คนเดียว ด้วยอาจกลัวจนถึงแก่เสียสติ 

นิยายเล่าถึงชึวิตคนหาเช้ากินค่ำสองคน เป็นแม่กับลูกสาววัยสิบห้าปี เพิ่งย้ายข้าวของไปอยู่บ้านสองชั้นเก่าแก่ทรุดโทรมกลางทุ่งเปลี่ยว เพื่อนบ้านใกล้ที่สุดอยู่ห่างไปเกือบสามกิโลเมตร ในคืนแรกนั้นฝนตกหนัก ฟ้าคำราม ลมกรรโชก สายฟ้าแปลบปลาบ ในคืนแรกที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ด้วยยังไม่ได้ไปติดต่อทางการ ความมืดจึงยิ่ง "เข้มข้นอย่างอำมหิต" ในคืนแรกนั้นมีเสียงผิดปกติบ่งบอกการบุกรุกจากชั้นล่าง แม่จึงถือมีดลงไปดูและสั่งลูกสาวว่า อย่าเปิดไฟฉาย อย่าจุดเทียน อย่าเคลื่อนไหว อย่าส่งเสียงเป็นอันขาด "แม่จะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้" 

เรื่องนี้เล่าโดยลูกสาว เด็กหญิงจิตใจเปราะบางที่ต้องรอแม่อยู่เพียงเดียวดายในความมืดท่ามกลางพายุฝน ขณะเงี่ยหูฟังสรรพเสียงต่างๆ จากชั้นล่าง จิตใจของเธอมีแต่ความหวาดกลัว ความกลัวนั้นมีอำนาจทำให้จินตนาการตนเองเพริดไปต่างๆ นานา ผู้บุกรุกนั้นจะเป็นสัตว์ร้าย หรือเป็นคน หรือเป็นภูตผีปีศาจกันแน่หนอ 

นี่ฉันกำลังหวาดกลัวมากเกินไปหรือเปล่า ในค่ำคืนที่มืดดำเข้มข้นขึ้นทุกทีๆ นี้ ในท่ามกลางเสียงแห่งสายฝน สายฟ้าและสายลมที่กำลังรุนแรงยิ่งขึ้นทุกทีๆ นี้ ฉันได้ปล่อยความคิดให้เพริดกระเจิงไปและสั่นระทึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่ตนได้จินตนาการขึ้นมาหรือเปล่า 

ผู้เขียนเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งและใช้ภาษาไพเราะแสนเสน่ห์ เรื่องของเขาจึงน่าติดตามยิ่งนัก ตัวละครเด่นของเรื่องคือ แม่ ซึ่งมีบุคลิกชัดเจนติดตรึงใจ เธอเป็นผู้หญิงกล้า เฉียบขาด สู้ชีวิต เป็นคนที่น่ายำเกรง ในเรื่องนี้เล่าทำให้ความสมัยใหม่ของเมืองและความโบร่ำโบราณของป่าและตำนานดึกดำบรรพ์ มาอยู่ด้วยกันได้ลงตัวอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เรื่องของแดนอรัญล้วนเป็นมนต์ขลัง สะกดให้หัวใจผู้อ่านศิโรราบกับการเล่าเรื่องของเขา 

เนื่องจากลูกสาวเป็นผู้เล่าเรื่อง คนอ่านจึงได้เห็นโลกนี้จากมุมมองของเด็กหญิงจิตใจพรั่นหวั่นหวาด ฉากที่ทำให้ตัวละครอยู่ในภาวะต้อง "รอคอย" ชะตากรรม ทำให้คนอ่านยิ่งใจแกว่งไปกับเธอ แรกๆ นั้นเนื้อเรื่องเล่าชีวิตที่ผ่านมาของเธอและแม่ แต่แล้วยิ่งนานไปเรื่องยิ่งน่าขนพองสยองเกล้าขึ้นทุกขณะ จนกระทั่งเมื่อถึงบทที่เด็กหญิงบอกว่า "แม่จ๋า นั่นแม่ใช่ไหมจ๊ะ หนูกลัวจนทนไม่ไหวแล้ว" ผู้อ่านหลายคนน่าจะรู้สึกอย่างเดียวกัน คือกลัวจนจะทนอ่านต่อไปไม่ไหวแล้ว เมื่อเด็กหญิงคำนึงว่า "จิตใจของโชคเคราะห์ทำด้วยอะไรนะ" ผู้อ่านอาจคิดว่า "จิตใจของแดนอรัญทำด้วยอะไรนะ" 

เวลาผู้เขียนเล่าเรื่องน่ากลัวก็ทำให้ขวัญกระเจิดกระเจิงได้จริงๆ แต่เรื่องยังมีอารมณ์ขันร้ายกาจ เช่นบทประพันธ์เรื่องรักระหว่างสาวไทยกับทหารญี่ปุ่น อังกาบกับโนโบรุ ที่ผู้เขียนบรรยายว่า "บทประพันธ์ที่ถือกำเนิดขึ้นจากวิญญาณแห่งความเป็นทาสและความเป็นโสเภณีนี้ จับอกจับใจผู้คนมาตั้งแต่ครั้งแรกที่มันได้รับการตีพิมพ์" 

ในเเรื่องนี้ยังมีเหตุฆาตกรรมแปลกประหลาด ชีวิตคนหาเช้ากินค่ำ หญิงโสเภณีที่บอกว่า "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ของเราก็คือโยนีอย่างไรเล่าคะ" บทเพลงที่แสนสวยและแสนเศร้า นกขุนทองช่างเจรจาผู้สามารถพูดจาสองแง่สองง่าม ชอบบอกผู้คนที่เดินผ่านกรงว่า อยากลงหม้อแกงว่ะ มีบทวิพากษ์สังคมไทยที่แสบสันต์ และที่สำคัญคือเด็กหญิงที่กำลังรอคอยชะตากรรม ที่เฝ้าคิดว่า "เดี๋ยว-แม่-ก็-คง-จะ-มา" 

วลีข้างต้นชวนให้ขนลุกเกรียว และชวนนึกถึงเรื่องผีที่โด่งดังมากของฝรั่ง ที่มีชื่อจับจิตจับใจมากกว่า Wait Till Helen Comes เพียงแต่อ่านชื่อเรื่องก็น่ากลัวอย่างยิ่งเสียแล้ว ถ้าเฮเลนมาแล้วจะเป็นอย่างไรละหรือ ทั้งสองเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เพียงแต่ทำให้เกิดความรู้สึกหลอนหลอกได้ดุจเดียวกัน 

อยากชวนไปอ่านหนังสือดีเล่มนี้ ไปรู้ว่าสุดท้ายแล้วชะตากรรมของเด็กหญิงและแม่ของเธอจะจบลงอย่างไร ความหมายของชื่อเรื่องจะปรากฏชัดเจนและเย็นยะเยือกในใจเมื่อคุณอ่านหนังสือจบลง 


เกี่ยวกับผู้เขียน แดนอรัญ แสงทอง 

ดวงตาที่สาม : แดนอรัญ แสงทอง 
ISBN 974-9748-25-5 แมวคราว 224 หน้า ราคา 190 บาท ปกอ่อน ปีที่พิมพ์ ๒๕๔๙ 

Copyright © 2006 faylicity.com 
นี่เป็นการกระทำเยี่ยงสัตว์ และในเมื่อมันเป็นการกระทำเยี่ยงสัตว์เช่นนี้ มันก็น่าจะต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของคนเท่านั้น 

-- แดนอรัญ แสงทอง มาตานุสติ

************************************

ขอขอบคุณ คุณเฟย์ Faylicity  

สำหรับข้อมูล http://www.faylicity.com/book/book1/matanus.html.

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 ตุลาคม 2553 เวลา 16:12

    ตั้งแต่ี่อ่าน "มาตานุสติ" ไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียวและแทบไม่ออกไปไหนในยามวิกาลถ้าไม่มีเพื่อนไปด้วย
    เป็นอีกเล่มที่หลอนและน่ากลัวมาก แค่นึกถึงก็สยองแล้วค่ะ

    >> ณญาดา <<

    ตอบลบ
  2. ตอนนี้ผมก็กำลังวิเคราะห์วรรณศิลป์เรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ ไม่ว่าจะเป็นโครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง ตัวละคร บทสนทนา ฉาก เป็นต้น ซึ่งหากท่านใดที่วิเคราะห์แล้วช่วยชี้แนะด้วยหรือว่าผู้ใดที่ต้องการแสดงทัศนะเกี่ยวกับประเด็นใดประเด็นหนึ่งก็ช่วยบอกด้วยครับ

    ตอบลบ