บล็อกนี้ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจาก แดนอรัญ แสงทอง

วันเสาร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553

อารยชนคนเถื่อน : True Grit (พิมพ์ใหม่)

อารยชนคนเถื่อน แปลโดย แดนอรัญ แสงทอง

จากบทประพันธ์ True Grit โดย Charles Portis

โดย สำนักพิมพ์สามัญชน ปี 2553



เข้าร้านหนังสือแล้วเพิ่งได้เห็น “อารยชนคนเถื่อน” เป็นครั้งแรก รูปเล่มสวยเท่บาดใจ หยิบๆ จับๆ อยู่หลายครั้งอยากได้เป็นเจ้าของมาก แต่เสียดายภาวะทางการเงินเมื่อวานนี้ไม่เอื้ออำนวย จึงต้องจำใจปล่อยวาง ...

ข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อารยชนคนเถื่อน True Grit คือ สองพี่น้อง อีธาน และโจเอล โคเอน (เจ้าของรางวัลออสการ์และรางวัลเมืองคานส์จาก No Country for Old Men, Barton Fink, A Serious Man และ Fargo) กำลังสร้างเป็นหนังฉบับใหม่ โดยฉบับก่อนเป็นหนังปี 1969 ที่จอห์น เวย์น เล่นบทไอ้ตาเดียว

แต่เวอร์ชั่นใหม่นี้สองพี่น้องโคเอนได้ดาราสุดฮอตดีกรีรางวัลออสการ์ปีล่าสุด เจฟฟ์ บริดเจส มารับบทไอ้ตาเดียว นอกจาก เจฟฟ์ บริดเจส แล้วยังมีสองดาวเด่นมากฝีมืออย่าง แมทท์ เดมอน กับ จอช โบรลิน มาร่วมเล่นอีกด้วย กำหนดการฉายประมาณเดือนธันวาคม 2510  


เรียกได้ว่าทางสำนักพิมพ์สามัญชนเล็งจังหวะการพิมพ์ได้ทันยุคทันเวลามาก ตั้งใจหรือเปล่านะเนี่ย  

หมายเหตุ อีธาน โคเอน เป็นนักเขียนกับเขาด้วยเหมือนกัน หาอ่านเรื่องสั้นแปลของเขา (หูล้างเลือด) ในฉบับไทยได้จาก หนังสือ Bookvirus เล่มสอง พิมพ์โดยฟิล์มไวรัส

แดนอรัญ แสงทอง : อัศวินวรรณกรรมฝรั่งเศส

เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีแฟนนักอ่านของคุณแดนอรัญกลุ่มหนึ่งถามข้าพเจ้าด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยความหวังว่า “คุณแดนอรัญจะมาแจกลายเซ็นในงานสัปดาห์หนังสือปีนี้ไหม ? ” เป็นคำถามง่ายๆ แต่ทำเอาข้าพเจ้าเหวอและเออไปชั่วขณะ .... เพราะไม่คาดคิดว่าจะมีใครมาถามกันแบบนี้ เขา (คนอ่าน) บอกว่าคุณแดนอรัญเป็นเทพขั้นพ่อทางภาษาที่มีผลต่อการอ่านหนังสือของเขามาก ถ้าได้เจอคุณแดนอรัญ (ตัวจริง) สักครั้งถือเป็นโบนัสสูงสุดในชีวิต “ขอดูห่างๆ ผมก็มีความสุขแล้วครับ”

มิตรสหายวงการน้ำหมึกต่างรู้ดีว่าคุณแดนอรัญ แสงทองคนนี้เป็นนักเขียนที่สื่อต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศอยากได้ตัวขอสัมภาษณ์มาก เพราะทุกคนต่างก็อยากอัพเดตข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเขาว่าทำอะไรเขียนอะไรอยู่ และเราก็ต่างรู้ดีอีกเช่นกันว่า ในความเป็นจริงนั้นคุณแดนอรัญเป็นคนเรียบง่ายสมถะที่สุด ชอบอยู่เงียบๆ และรักความสันโดษเข้ากระดูก เขาไม่ถนัดที่จะอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากและไม่ชอบสมาคมกับใคร เพราะเขาอยากใช้เวลาทุ่มเทให้กับงานเขียนอย่างเต็มที่

แฟนนักอ่านกลุ่มนี้ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงตอนที่คุณแดนอรัญมาปรากฏตัวที่กรุงเทพ เมื่อวันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน 2551 ณ สมาคมฝรั่งเศส ถนนสาทรใต้ ที่สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ได้จัดพิธีมอบเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้นเชอวาลิเย่ร์ ด้านศิลปะและอักษรศาสตร์ให้เขาเป็นอัศวินทางวรรณกรรม ผู้สร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมชั้นเยี่ยมจนเป็นที่ยอมรับและสร้างชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในยุโรป เขาเป็นนักเขียนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้

ตอนนั้นหลายคนร้อง “ว้า” บ่นเสียดงเสียดาย ตีโพยตีพาย ตัดพ้อต่อว่าตัวเองสารพัด และลมแทบจับเมื่อเห็นข่าวการปรากฏตัวของคุณแดนอรัญที่สื่อต่างๆ เขียนบันทึกไว้ เพราะถ้าได้ข่าวล่วงหน้า  พวกเขาที่อยากเห็นตัวจริงของคุณแดนอรัญ แสงทอง สักครั้งหนึ่ง 

บรรทัดต่อจากนี้คือคำสุนทรพจน์ที่คุณแดนอรัญ แสงทอง เขียนไว้เพื่อกล่าวในงาน  เรียน พณฯ

ท่านเอกอัครราชทูตข้าพเจ้าไม่สู้จะแน่ใจนักว่าข้าพเจ้าคู่ควรกับเกียรติยศที่ข้าพเจ้าได้รับหรือไม่ ข้าพเจ้าเกรงว่าเพื่อนร่วมชาติของข้าพเจ้าอาจไม่พอใจและไม่เข้าใจ แม้แต่ตัวข้าพเจ้าเอง ในบางขณะ ก็ยังคลางแคลงใจว่ามีความไม่เหมาะสมบางประการในการที่ใครสักคนจะดึงดันฝ่าฝืนกระแสความคิดหลักของสังคมโลก-ต่อให้กระแสความคิดหลักนั้นจะนำพาเราไปสู่ความพินาศก็ตาม หลายต่อหลายครั้งข้าพเจ้าเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลงใหลได้ปลื้มกับมนุษย์อย่างดาร์ตาญังและขุ่นรำคาญแม้เมื่อเพียงแต่ได้ยินนามของบุคคลอย่างดอน คีโฮเต้ถูกกล่าวขานออกมา

ข้าพเจ้าจำเป็นที่จะต้องต่อสู้ในสงครามของข้าพเจ้าต่อไป ด้วยยุทธวิธีของข้าพเจ้าเอง สงครามนั้นยังไม่สงบและอาจไม่มีวันสงบ ชัยชนะเป็นแต่เพียงความหวังอันเลื่อนลอย การถูกปิดล้อมได้ดำรงอยู่มาแล้วหลายศตวรรษและก็จะยังดำเนินอยู่ต่อไป ค่ำคืนของข้าพเจ้ามืดมน อับชื้น และคลุ้มคลั่ง อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 451 องศาฟาเรนไฮต์ แต่แม้จะร้อนรุ่ม ก็ยังคงเหน็บหนาว และยาวนานไม่รู้จบ อมอำกลืนกินทิวาวารเอาไว้จนแทบหมดสิ้น เต็มไปด้วยกลิ่นอายของฝิ่น ไวน์ และละอองไอแห่งมนตราวิเศษที่ลอยละล่องอยู่ในทุกอณูของอากาศ ที่ซึ่งแสงสว่างกระจ่างจ้าของเหตุผลและตรรกวิทยา แทบไม่ได้รับอนุญาตให้ฉายส่องเข้าไป แต่ข้าพเจ้าก็ปฏิพัทธ์พิสมัยค่ำคืนเยี่ยงนั้น ก็ในสภาพการณ์เยี่ยงนั้นนั่นเอง ที่ทำให้มนุษย์เราได้กลั่นกรองตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า ไปสู่สถานะใหม่ ซึ่งถ้าหากมิใช่เดรัจฉาน ก็คือเทพเจ้า

พณฯ ท่านคงจะรู้ดีอยู่แล้วจากประสบการณ์ของพณฯ เอง ว่าผู้ที่บังอาจกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ออกมา ต้องเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับสภาพทางภูมิศาสตร์ของขุมนรกต่างๆ มาแล้วเป็นอย่างดี

พญาอัศดรอันดุร้ายแรงพยศ เกราะ โล่ ศาสตราวุธอันคมกล้า อาจไม่มีคุณค่าแต่อย่างใดเลยในสายตาของมนุษย์ผู้อื่น แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว สิ่งเหล่านี้เลิศล้ำอำไพยิ่งกว่ารสรักแห่งอิสตรี

ข้าพเจ้าใคร่ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณพณฯ ท่าน พณฯ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการสื่อสารแห่งประเทศฝรั่งเศส คณะบรรณาธิการแห่งศูนย์หนังสือแห่งชาติของฝรั่งเศส คณะบรรณาธิการของสำนักพิมพ์เอดิตีอ็อง ดือเซยแห่งประเทศฝรั่งเศส และบรรดานักอ่านชาวฝรั่งเศส ด้วยความจริงใจ ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน และด้วยน้ำเสียงอันสุภาพราบเรียบ สงบงัน ด้วยความซาบซึ้งในความกรุณา

ข้าพเจ้าอับจนหนทางไม่รู้ว่าจะขอบคุณเมอร์ซีเออร์มาร์แซล บารังส์ด้วยถ้อยคำใดและด้วยวิธีการเช่นใดดี ข้าพเจ้าจำเป็นต้องถือโอกาสนี้กล่าวขอบคุณเขาไว้เสีย ณ ที่นี้และข้าพเจ้าขออนุญาตกล่าวถ้อยคำต่อไปนี้อย่างอาจหาญด้วยเสียงคำรามอันกัมปนาทของอสุนีบาตจากใจกลางของวสันตฤดูอันกราดเกรี้ยว

เขาผู้ซึ่งเป็นไซล็อกผู้ใจเสาะและสะเพร่ากับตัวเลขของข้าพเจ้า เป็นนักวิจารณ์ผู้เฉียบคมและปราศจากอารมณ์ขันของข้าพเจ้า เป็นมิตรผู้ร้ายกาจและศัตรูผู้แสนดีของข้าพเจ้า เป็นผู้จัดหาหนังสือดีๆ ต่างๆ ให้ข้าพเจ้าหยิบยืมและแสร้งลืมทวงคืนอยู่เสียเนืองๆ เป็นผู้ไม่แยแสสนใจต่อกล้วยไม้ไทยแท้ มวยไทยแท้ และศาสนาพุทธแบบไทยแท้เอาเสียเลย ทั้งที่สามสิ่งนี้โดยแก่นสารแล้ว เป็นสิ่งที่ดีงามอันหาได้ยากยิ่งในโลก เป็นผู้ที่ได้ทุ่มเทความอดทนและวิริยะอุตสาหะแปลงานวรรณกรรมของข้าพเจ้าออกเป็นภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส เป็นผู้ซึ่งนามของเขาเกี่ยวติดกับนามของข้าพเจ้าราวกับถูกเกี่ยวด้วยห่วงงอของอ้ายตัวอัมเปอร์แซนด์อันเก่าแก่ดึกดำบรรพ์ โลกในความคิดฝันของข้าพเจ้าซึ่งข้าพเจ้าต้องทนแบกมันอยู่นั้น เขามีส่วนร่วมในการแทนแบกมันอยู่ครึ่งหนึ่ง ผีเสื้อทางวรรณกรรมผู้นี้แม้จะเป็นชาวฝรั่งเศสแท้ๆ แต่โดยข้อเท็จจริง เขาคือผู้ที่ได้ทำให้วรรณกรรมไทยร่วมสมัยได้รับการเผยแพร่สู่สายตาของชาวโลก มากยิ่งกว่าชาวไทยคนใดทั้งสิ้น เขาเป็นฌอร์ฌ เซเดย์แห่งยุคไซเบอร์พังค์โดยแท้ในแบบฉบับของเขาเอง

เกียรติยศที่ข้าพเจ้าได้รับ สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องให้เขามีส่วนร่วมด้วย-กึ่งหนึ่ง-ไม่มากไปกว่านั้น ไม่น้อยไปกว่านั้น เพราะว่านี่คือการแบ่งปันระหว่างนักรบผู้พิสมัยราตรีกาลด้วยกัน สมควรหรือไม่สมควรประการใด ก็สุดแล้วแต่วิจารณญานของพณฯ ท่าน เอวังก็มีด้วยประการฉนี้ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

แดนอรัญ แสงทอง                            

กระท่อมผู้ชนะ : 28 พฤษภาคม 2551