บล็อกนี้ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจาก แดนอรัญ แสงทอง

วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ศิลป์สโมสร : ขบถวรรณกรรมกับรางวัลซีไรต์


ชมรายการย้อนหลัง คุณแดนอรัญ แสงทอง เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 57
ในศิลป์สโมสร ทาง Thai PBS

http://www.youtube.com/watch?v=BpHghybv7ms

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557

"อสรพิษและเรื่องสั้นอื่นๆ" ผลงานซีไรต์ประจำปี 2557


 
เรื่องสั้น “อสรพิษ” เปิดเรื่องด้วยสัมผัสนอกและใน บรรยายธรรมชาติในยามเย็นว่า :

 
                จวนจะเย็นย่ำแล้ว แดดอ่อนรอนแสงลงแล้ว ดวงตะวันเป็นสีแดงแก่ก่ำ  นุ่มนวลอ่อนโยนลง ท้องฟ้าปร่ง **  โล่งเหมือนโดมแก้วผลึก เสี้ยวเมฆบางเบาบนเส้น ขอบฟ้าเหนือทิศตะวันตกเมื่อต้องแสงตะวันมีสีสันงามประหลาด

 
การบรรยายธรรมชาติยามเย็นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงระหว่างการจู่โจมของงูยักษ์ จากความงดงามของท้องฟ้ามาเป็นความว้าเหว่ของท้องทุ่ง จังหวะสัมผัสของการบรรยายธรรมชาติเป็นเสมือนการให้จังหวะโจมตีของเจ้างูนั้น :
 

                ความโกรธเกรี้ยวของเจ้างูโหมกระพือ มันยืดตัวสูงขึ้นอีก หัวของมันแอ่นเอนมาทางเบื้องหลังเหมือนคันธนูที่ถูกน้าวจนสุดล้า ปากของมันอ้าออก เผยให้เห็นเขี้ยวอันโค้งงดและวาววับ ลมทุ่งยังกระโชกวู่หวิว มิหยุดยั้ง ขอบดวงทางด้านล่างของดวงตะวันแตะเส้นขอบฟ้า เสียงวัวลูกแหง่ร้องเรียกหาแม่ดังมาอย่างว้าเหว่ เหยี่ยวแดงตัวหนึ่งลอยละล่องอยู่สูงลิบลิ่ว ส่งเสียงกรีดร้องแหลมสูงด้วยความหิวโหยขณะมุ่งหน้ากลับไปสู่รวงรังอันเร้นลับของมัน ยังมิทันสิ้นเสียงร้องของเหยี่ยว เจ้างูก็ฉกลงมาเต็มแรง

 
**************** 
ติดตามอ่านฉบับเต็มได้ใน “อสรพิษและเรื่องสั้นอื่นๆ” จัดพิมพ์โดย สนพ.สามัญชน

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สัมภาษณ์ แดนอรัญ แสงทอง : อสรพิษและเรื่องสั้นอื่นๆ โดยนายกุดจี่ - พรชัย


คัดบางส่วน  

กลับมาที่อสรพิษ คุณสนิทกับงูขนาดไหนถึงขั้นเขียนอสรพิษออกมา ?

(หัวเราะ) ก็เป็นเรื่องเล่าที่ผมคิดว่าในทุกหมู่บ้านในชนบททั่วประเทศน่าจะเคยได้ยินเรื่องคล้ายๆ อสรพิษอยู่บ้าง มันเป็นเรื่องที่ใครก็บอกเล่า ไม่พ่อคุณก็แม่คุณ ไม่ก็เป็นปู่ย่าตายาย พี่ป้าน้าอาของคุณที่เขาจะเล่าเรื่องถึงความน่ากลัวเกี่ยวกับงู ผมไม่ได้สนิทกับงูขนาดนั้นหรอก (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องเล่า เรื่องเจ้าการะเกดก็เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับเสือสมิงเหมือนกัน มันเป็นเรื่องบ้านนอก ไม่เห็นต้องมีปมด้อยเลย

.... ความสุข ความทุกข์ ความหวัง ณ วันนี้ของแดนอรัญ ?

ก็มีความสุขดีนะ ตามอัตภาพ ความทุกข์ก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีอยู่ เพราะผมเองก็เป็นเหยื่อของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เช่นเดียวกับมนุษย์ทั้งหลายในโลก มันไม่ได้หวังอะไรมากมายนะ ผมก็ทำไปอย่างถึงที่สุดที่มันเป็นหน้าที่ของผมเท่าที่จะทำได้ในฐานะนักเขียน เข้าใจว่าทำมาเยอะนะ ก็ปล่อยให้เป็นภาระของคนรุ่นต่อไป... วันหนึ่งผมก็ล้มตายลงมันเป็นกฎธรรมชาติ คุณมีปัญญาคุณมีเรี่ยวมีแรง คุณก็แบกรับต่อไป ผมก็พยายามบอกกับคนรุ่นหลังๆ อยู่บ้างประมาณนี้

 โปรดอ่านต่อในนิตยสาร เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 1167 วันที่ 10 ตุลาคม 2557 โดยกุดจี่ พรชัย แสนยะมูล