บล็อกนี้ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจาก แดนอรัญ แสงทอง

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

อตีเตกาเล นวนิยายเล่มล่าสุดของ แดนอรัญ แสงทอง

คือนวนิยายหนึ่งในหกเล่มในเครือ Way of Book
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยการเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ของนักวิจัยหนุ่มผู้รับงานมาจากกระทรวงวัฒนธรรม ทำงานวิจัยเป็นงานเฉพาะกิจ หัวข้อในการวิจัยของเขาก็คือ การวิเคราะห์คุณค่าในเชิงสุนทรียภาพของจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถ วัดป่าศาลาปางสัก อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ภาพจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถได้นำไปสู่เรื่องราวตำนานเมืองเหนือ และเรื่องราวลี้ลับของภูตผีอันชวนหวาดแสยง ด้วยท่วงทำนองการเล่าเรื่องแบบถมึงตาใส่ผู้อ่าน ตามสำนวน แดนอรัญโดยแท้

 บางส่วนจากอตีเตกาเล

โทรศัพท์มือถือของเขาใช้การไม่ได้โดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ไม่นานมันยังใช้การได้ดีเยี่ยม สัญญาณแจ่มชัด ก่อนหน้านี้ไม่นานที่สถานีรถไฟเชียงใหม่เขายังโทร.คุยกับนายเชตเพื่อนที่กรุงเทพฯอยู่เลย บอกกล่าวแก่นายเชตว่า ถึงเชียงใหม่แล้วว่ะ สิ่งที่ฉันต้องบอกแกเป็นอย่างแรกก็คือเชียงใหม่ไม่มีทะเลว่ะ นายเชตซึ่งทำงานประจำอยู่ในกองอนุรักษ์โบราณวัตถุและโบราณสถาน กระทรวงวัฒนธรรมไม่ได้ขันเขไปด้วยแม้แต่น้อย หากแต่กำชับกำชาอย่างเป็นงานเป็นการ อย่าเถลไถล ถ่ายรูปมาก ๆ วาดภาพประกอบมาด้วยเยอะ ๆ และเขียนรายงานมาให้ละเอียด เออ ถึงเชียงใหม่แล้วเอ็งก็โทร.หานางสาวเสี้ยวจันทร์เขาซี เอ็งจะมาโทร.หาข้าทำไม

วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

"เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง" VS "Under a Demented Sky"

แฟนคลับแดนอรัญ แสงทอง สามารถหาอ่านหนังสือ “เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง ”
ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษภายใต้ชื่อ  Under a Demented Sky ได้แล้วในรูป ebook
ที่ online at  thaifiction.com แปลโดย  Marcel Barang

นอกจากฉบับแปลภาษาอังกฤษแล้ว ขณะนี้ต้นฉบับ “เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง” กำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาจากสำนักพิมพ์ในฝรั่งเศสที่รับตีพิมพ์วรรณกรรมของเอเซีย  และระหว่างที่รอฝรั่งเศสพิจารณาอยู่นี้  ได้มีนักแปลจากอิตาลีท่านหนึ่งติดต่อขอต้นฉบับ  Under a Demented Sky” จากคุณ Marcel Barang ไปอ่านด้วย....

มาช่วยกันเชียร์ช่วยกันลุ้นขอให้ “เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง”  ได้แปลเป็นภาษาฝรั่งเศสกับอิตาลีด้วยเถอะ...

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เสวนาวิชาการระดับชาติ





ในวันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2555 อาจารย์ชนิดา ชิตบัณฑิตย์ อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จะร่วมเป็นวิทยากรในงานเสวนาวิชาการระดับชาติหัวข้อ

"เขียนอ่านหญิง หญิงอ่านเขียน"

เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี คณะศิลปศาสตร์ และเพื่อรำลึกถึงอาจารย์นพพร ประชากุล
จัดโดย ภาควิชาภาษาฝรั่งเศส และโครงการปริญญาโท สาขาวิชาฝรั่งเศสศึกษา ร่วมกับ
โครงการปริญญาโท สาขาสตรีศึกษา วิทยาลัยสหวิทยาการ

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2555 เวลา 9.30-16.30 น.
ห้อง ศศ. 301 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

กำหนดการ

9.30-12.30
การนำเสนอผลงานวิชาการในหัวข้อ “เขียนอ่านหญิง หญิงอ่านเขียน”
แรกรักร้าง…L’amant ของ มาร์เกอริต ดูราส
อาจารย์ ดร.วรุณี อุดมศิลป
อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาตะวันตก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“อันลมปี่ดีแต่เพราะเสนาะหู ที่จะสู้ลมปากยากนักหนา″
ภาษากับการเมืองเรื่องเพศสถานะในพระอภัยมณี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นัทธนัย ประสานงาม
อาจารย์ประจำภาควิชาวรรณคดี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

อ่านเทพนิยายร่วมสมัย เขียนใหม่ หรือ ผลิตซ้ำ?
กรณีศึกษา The Bloody Chamber ของ Angela Carter
อาจารย์ สุธิดา วิมุตติโกศล
อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาและวรรณคดีอังกฤษ
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

13.30-14.30
การนำเสนอผลงานวิชาการในหัวข้อ “เขียนอ่านหญิง หญิงอ่านเขียน”(ต่อ)
(ส)ดับเสียงโหยหวนรำพันพิลาปของนางตะเคียน ใน “ตำนานเสาไห้” ของ แดนอรัญ แสงทอง
อาจารย์ วันรัก สุวรรณวัฒนา
อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาฝรั่งเศส คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

14.30-16.30
เสวนาโต๊ะกลมในหัวข้อ “เหลียวหลังแลหน้า: แนวคิดสกุลหลังอาณานิคม สตรีศึกษา และนพพร ประชากุล”
อาจารย์ ดร.สุกฤตยา จักรปิง
อาจารย์ประจำโครงการปริญญาโท สาขาสตรีศึกษา วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อาจารย์ ชนิดา ชิตบัณฑิตย์
อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ดารณี ศรีหทัย
(อดีต) นักวิเทศสัมพันธ์ ชำนาญการ ส่วนยุทธศาสตร์ สำนักการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

นักศึกษาสตรีศึกษา รุ่นที่ 1
วิทยานิพนธ์เรื่อง “สมเด็จรีเยนต์” พระองค์แรกในสยาม (2551) ได้รับการตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ศิลปวัฒนธรรม

ชาตรี ลีศิริวิทย์
บรรณาธิการสำนักพิมพ์ เอ-พลัส

นักศึกษาสตรีศึกษา รุ่นที่ 1
วิทยานิพนธ์เรื่อง “ภาพเสนอของผู้ชายในนิตยสารปลุกใจเสือป่าช่วงปี พ.ศ. 2517-พ.ศ. 2527: กรณีศึกษา นิตยสารแมนและนิตยสารหนุ่มสาว ” (2551)

ธนัย เจริญกุล
พนักงานบริษัทจีเอ็มเอ็ม แซท

นักศึกษาสตรีศึกษา รุ่นที่ 1
วิทยานิพนธ์เรื่อง “การขนานนามสกุล: กลไกของรัฐในการสร้างสำนึกชาตินิยมและอัตลักษณ์ความเป็นชาย” (2551)

ดำเนินรายการโดย อาจารย์ วันรัก สุวรรณวัฒนา
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ริมรั้วหัวใจ จากโดม วุฒิชัย ถึง แดนอรัญ แสงทอง

บางส่วน จาก นิตยสารขวัญเรือน ปักษ์แรก มิ.ย.55

แดนอรัญ เพื่อนรัก --- เช้าตรู่วันนี้นกดุเหว่าส่งเสียงปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง ขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกถูกระบายด้วยแสงสีทองของยามอรุณรุ่งเป็นภาพงดงาม ผมรู้สึกว่ายามเช้าเหมือนของขวัญชิ้นเล็กๆ ที่โลกหยิบยื่นให้กับมวลมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่ว่าใครจะเห็นค่าของขวัญชิ้นนี้หรือไม่ ทุกคนมีสิทธิ์รับและปฏิเสธได้ตามความพอใจ ผมชอบยามเช้าจึงตื่นแต่เช้าเสมอ, เมื่อคืนนี้ผมอ่าน “เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง” นิยายเรื่องล่าสุดของคุณจบลงด้วยหัวใจเต้นระรัว อันที่จริงผมควรจะอ่านตั้งแต่วันแรกที่ได้มาแล้ว เพียงแต่ผมรอเวลากลับมา “บ้านสวนขวัญ” ที่ปากช่องซึ่งเป็นที่พำนักของผมยามนี้ บอกกับตัวเองว่าการอ่านหนังสือเล่มนี้ควรจะหาที่เงียบๆ อยู่กับความสงัดเพื่อดื่มด่ำกับสุคนธรสจากดอกไม้งามอย่างเต็มที่, เพียงเปิดฉากแรกผมก็รู้สึกเร้าใจเพราะคาดไม่ถึงว่าคุณจะพาย้อนเวลากลับไปในสมัยพุทธกาลเมื่อ 2,000 กว่าปีก่อน คุณหยิบเรื่องราวของนางกีสาโคตมีขึ้นมาเล่าใหม่ด้วยวิธีของคุณ ด้วยน้ำเสียงของคุณ ด้วยสไตล์ของคุณ เรื่องราวของนางกีสาโคตมีที่คุณสร้างขึ้นมาใหม่ทำให้ผมติดตามทุกตัวอักษรไปด้วยใจจดจ่อ ถ้อยคำและศัพท์แสงแปลกเสียงแปลกตา กลิ่นอายชวนค้นหา แต่โชคดีที่ผมรู้จักท่วงทำนองของคุณจากหนังสือเล่มก่อนๆ มาบ้าง อ่านไปผมก็อุทานในใจไป โอ...ช่างวิเศษนัก.....เราไม่ได้พบกันมานานถึงเกือบ 20 ปี ผมนึกถึงเมื่อเราพบกันครั้งแรกในวัยหนุ่มที่ยังไม่ประสีประสาชีวิต ตั้งแต่ยังเป็นนักเขียนอ่อนหัด ใช่-อ่อนหัดของผมหมายความตามนั้นจริงๆ ตอนนั้นผมเพิ่งเริ่มต้นทำงานพิสูจน์อักษรและริเป็นนักเขียนไปด้วย คุณเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วแต่ไม่ยอมกลับบ้าน คุณเขียนหนังสือและแปลหนังสือไปด้วย ในขณะที่เพื่อนบางคนยังต้องขอเงินจากพ่อแม่เรียนหนังสืออยู่ เนื่องด้วยความรักในงานเขียนและการอ่านจึงชักนำให้เราได้มาเป็นเพื่อนกัน ผมไม่รู้ว่าห้องเช่าซอมซ่อริคลองแสนแสบซึ่งอยู่ข้างรั้วมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒที่คุณเรียนจบมานั้นมีอะไรดีจึงดึงดูดให้ผมและเพื่อนๆ ต้องแวะเวียนไปหาคุณเสมอ.....(อ่านต่อได้ที่นิตยสารขวัญเรือน ปักษ์แรก มิ.ย.55)

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เป้ - อารักษ์ ปลี้ม "เงาสีขาว"

อารักษ์ อมรศุภศิริ (นักร้องและนักแสดง)

บางส่วนจากหนังสือ
“อ่านเถิดชาวไทย” (100 คนดังกับหนังสือดีที่อยากให้คนไทยอ่าน)  แพรวสำนักพิมพ์


ผมชอบหนังสือ “เงาสีขาว (ภาพเหมือนในวัยระห่ำของศิลปิน) ” ของแดนอรัญ แสงทอง เขาเป็นนักเขียนที่เขียนหนังสือดีมาก... เขาใช้ตัวเองเป็นผู้เล่าเรื่องโดยเปลี่ยนสรรพนามไปเรื่อยๆ .... สิ่งที่เขาเขียนนั้นผมสามารถนำแรงบันดาลใจจากการอ่านมาแต่งเป็นเพลงได้มากมาย เนื้อหาดุดัน แต่ขณะเดียวกันก็สนุกมาก.... ผมอ่านด้วยความสนุกกับการใช้คำต่างๆ ว่าเขาคิดได้ยังไง สิ่งที่คนได้รับคือมุมมองใหม่ๆ และเรื่องราวที่สามารถนำไปต่อยอดทำรีเสิร์ชได้ เพราะเขาอ้างอิงหลายเรื่องที่น่าสนใจ ขณะเดียวกันคุณก็จะได้รู้จักหนังสือเล่มอื่นๆ มากขึ้นจากการอ่านหนังสือเล่มนี้....

วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วิจารณ์ "เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง"

โดย กองบรรณาธิการ  นิตยสาร Lips พ.ค. 55

คัดบางส่วน....

ด้วยฝีมือการเล่าเรื่อง การใช้ภาษาอันเฉียบคมเฉกนายแห่งภาษาอย่างแท้จริง ผู้เขียนนำพาให้ผู้สังเกตการณ์เช่นเรามีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์ อารมณ์ ความรู้สึกที่นางกีสาประสบได้อย่างประหลาด แม้จะรู้เรื่องราวมาก่อนแล้ว แต่ในห้วงขณะที่อ่าน เรารู้สึกมืดมน เปล่าเปลี่ยวหัวใจของเราถูกบีบคั้น เฝ้ารอแต่ว่าเมื่อใดกันที่พายุในอารมณ์ในหัวใจจะสงบลงเสียที

“เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง” จะเป็นวรรณกรรมเชิงพุทธศาสนาหรือไม่ก็ตาม แต่นับว่าเป็นวรรณกรรมไทยชั้นเยี่ยมสำหรับผู้ที่รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ